หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ศาลพระกาฬ จ.ลพบุรี San Phra Kan @ Lopburi

           เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 55 ได้มีโอกาสไปลพบุรี เมืองละโว้ หรือเมืองลวะปุระ เมืองเก่าโบราณที่มีผู้คนอาศัยมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เรื่อยมาจนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ด้วยความที่เป็นเมืองที่ผ่านอารยธรรมมาหลายยุคหลายสมัย จึงทำให้ลพบุรีมีโบราณสถานและโบราณวัตถุ ซึ่งถือว่าเป็นมรดกอันล้ำค่าและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีอยู่มากมาย....
           วันนี้เลยถือโอกาสเข้าไปไหว้เจ้าพ่อพระกาฬ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมือง ของ จ.ลพบุรี ที่มีผู้คนแวะเวียนไปไหว้ ขอพรกันอย่างไม่ขาดสาย...
            ศาลพระกาฬ หรือศาลสูง เป็นเทวสถานเก่าของขอม สร้างด้วยศิลาแรงเรียงซ้อนกันฐานสูง เป็นปรางค์เดี่ยวขนาดใหญ่ ผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุขยื่นด้านหน้า มีบันไดขึ้นลง 4 ด้าน เรือนธาตุหรือองค์ปรางค์พังหมดแล้ว อายุประมาณต้นพุทธศตวรรษที่ 16 มีทับหลังสลักรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ทำด้วยศิลาทราย 1 แผ่น อายุราวพุทธศตวรรษที่ 17 วางอยู่ติดฝาผนังวิหารหลังเล็กชั้นบนและยังพบหลักศิลาจารึกแปดเหลี่ยมจารึกอักษรมอญโบราณด้วย
ศาลพระกาฬ หรือศาลสูง
            ด้านหน้าเป็นศาลา ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2494 โดยสร้างทับบนรากฐานเดิมในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภายในวิหารประดิษฐานพระรูปประติมากรรมลอยตัว 4 กร ไม่มีเศียร อาจจะเป็น
เทวรูปพระนารายณ์  ศิลปะแบบลพบุรีหรือรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ภายหลังมีผู้นำเศียรพระพุทธรูปศิลาทราย สมัยกรุงศรีอยุธยามาสวมต่อไว้ให้  เป็นที่เคารพสักการะ ของประชาชนทั่วไป
ศาลาที่ประดิษฐานเทวรูปพระนารายณ์ หรือรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
เทวรูปพระนารายณ์ หรือรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
            นอกจากนี้แล้วที่ศาลพระกาฬยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ ฝูงลิงซึ่งมีอยู่มากกว่า 300 ตัว กล่าวกันว่า...เดิมบริเวณโดยรอบศาลพระกาฬร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นกร่าง ขนาดใหญ่ มีลิงอาศัยอยู่ เมื่อมีคนนำอาหารและผลไม้มาแก้บน ที่ศาลพระกาฬ ลิงป่าเหล่านั้น ได้เข้ามากินอาหาร จึงเชื่องและคุ้นเคยกับคน...หากท่านใดผ่านไปแถวนั้นอย่าลืมแวะไปสักการะ บูชาเจ้าพ่อพระกาฬกันนะค่ะ....
ลิงที่อาศัยอยู่บริเวณศาลพระกาฬ

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ลอยกระทง ม.รามคำแหง 2 (Loi Krathong Festivel 2012)

            กลับมาแล้วววว...ควรนี้มีบรรยากาศงานลอยกระทงของมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 มาฝากกันค่ะ ปีนี้คนเยอะมาก ๆ ต่างจากปีที่แล้วเลย ที่ไม่ค่อยมีคนเลย อีกอย่างปีนี้ทางนัมเบอร์วันจัดงานตรงกับวันลอยกระทงพอดี ทำให้ผู้คนมากมายทั้งที่อาศัยอยู่แถวนั้น และที่อื่นหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมงานพร้อมกับลอยกระทงกันด้วย...
งานลอยกระทง ม.รามคำแหง 2 คนเยอะมาก
            วันลอยกระทงปีนี้ ตรงกับวันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2555 วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 เดิมเชื่อกันว่าการลอยกระทงเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ในสมัยของพ่อขุนรามคำแหง โดยมีท้าวศรีจุฬาลักษณ์หรือนางนพมาศ เป็นผู้ประดิษฐ์ทำกระทงเป็นครั้งแรก จากนั้นก็มีประเพณีนี้มาจนถึงปัจจุบัน...ตามความเชื่อของการลอยกระทง เพื่อขอขมาต่อพระแม่คงคา เพราะมนุษย์เราอยู่ได้เพราะน้ำ เนื่องจากสมัยก่อนมนุษย์ใช้ชีวิตอยู่กับสายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านเรือน หรือแม้กระทั้งการสร้างเมือง ก็ต้องติดและอยู่ใกล้กับแม่น้ำ จึงทำให้เรานึกถึงคุณของน้ำ...หรือบางท้องที่ ก็ถือว่าการลอยกระทงเป็นการลอยเพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์ท่านได้ไปแสดงธรรมในนาคภิภพ และทรงประทับรอยพระบาทไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทานที...บางท้องที่จึงถือว่าวันนี้เป็นวันบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...

ขอขมาพระแม่คงคา และบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
              เล่าประวัติซะเพลินเลยเรา...ย้อมกลับมาที่งานในมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 กันดีกว่า...ปีนี้คนเยอะมาก ภายในงานก็จะมีการประกวดกระทง มีเวทีการแสดงวัฒนธรรมไทย เช่น การร้อง รำ เป็นต้น บริเวณรอบ ๆ บึงก็จะมีร้านค้าขายของมากมาย รอบ ๆ บึง และสองฝั่งทางเดินข้างทาง ส่วนใหญ่จะขายกระทงกันเป็นหลัก นอกนั้นก็จะเป็นพวกเครื่องดื่ม ของทานเล่น เป็นต้น กระทงที่นำมาขายส่วนใหม่เป็นกระทงที่เน้นทำจากวัสดุทางธรรมชาติเป็นหลัก ส่วนใหญ่เป็นกระทงที่ทำจากต้นกล้วย และใบตอง หรือไม่ก็เป็นดอกบัว ขนมปัง เปลือกข้าวโพด เป็นต้น โดยจะมีให้เราเลือกซื้อได้ตลอดทั้งสองข้างทาง แล้วแต่ความชอบของเรา... 
กระทงประกวดสวยงามมาก
กระทงประกวดเช่นกัน
มีกระทงขายเกือบตลอดทาง
กระทงทำจากเปลือกข้าวโพด
นี่ก็ทำมาจากเปลือกข้าวโพดเช่นกัน
มีรูปนกด้วย...คนทำฝีมือมาก
              นอกจองมีงานลอยกระทงแล้วเดินมาฝั่งตรงข้ามมหาลัยก็มีงานของทางนัมเบอร์จัดด้วย ชื่องานเพลินวานงานวัด ส่วนใหญ่จะมีของขายเป็นหลัก ของส่วนใหญ่จะเป็นของ OTOP  4 ภาค และของอื่น ๆ ให้ท่านได้เดินช้อปปิ้งกันอย่างมากมาย นอกจากของขายแล้วยังมีป่าโปง ชิ่งช้าสวรรค์ อีกด้วย สนใจมาเดินเล่นกันได้นะค่ะงานจัดถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ค่ะ...    

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ศูนย์ฝึกอาชีพหญิงตาบอดสามพราน & สวนสามพราน (WBU-ICEVI 2012 Thailand)

        ห่างหายไปกับการเขียนบล็อกซะนานเลย...เมื่อวันเสาร์ที่ 17 พ.ย. 55 ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปช่วยดูแลผู้พิการทางการมองเห็น เลยเก็บภาพและบรรยากาศมาฝากกัน งานนี้เป็นงานของสมาคมตาบอดแห่งประเทศไทย ซึ่งปีนี้ได้เกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาสหภาพคนตาบอดโลก และสมัชชาสภาระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาของคนพิการทางการมองเห็น (WBU-ICEVI 2012 Thailand) การจัดงานครั้งนี้ นอกจากมีการประชุมแล้ว ยังมีการจัดนำเที่ยวให้กับผู้พิการทางสายตาได้มีโอกาสท่องเที่ยวกันอีกด้วย...ถึงจะไม่สามารถมองเห็นแต่ก็มีไกด์คอยบรรยายให้ฟังตลอดทางว่าตอนนี้ถึงไหนแล้ว มีอะไรอยู่รอบ ๆ ข้างบ้าง ผ่านอะไรบ้าง...เมื่อถึงสถานที่ท่องเที่ยวได้เห็นสีหน้าทุกท่านมีความสุขกับการท่องเที่ยวกันเป็นอย่างมาก...เห็นแล้วมีความสุขจัง...
            วันนี้เราจะเดินทางไปศูนย์ฝึกอาชีพหญิงตาบอดสามพราน และสวนสามพราน หรือ Rose Garden กัน เรานัดรวมพลกันตอน 07.00 น. เพื่อลงทะเบียน จากนั้น 08.30 น. เดินทางสู่จังหวัดนครปฐมโดยสถานที่แรกที่เราแวะคือศูนย์ฝึกอาชีพหญิงตาบอดสามพราน พอมาถึงก็มีน้อง ๆ ผู้พิการทางสายตามายืนรอต้อนรับทุกท่านกันอย่างพร้อมเพียง พร้อมกับร้องเพลงต้อนรับทุกท่านที่เดินทางมาเยี่ยมเยือน...เราใช้เวลาอยู่ที่นี่เพียงระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อให้ทุกท่านได้เรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของศูนย์และกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับผู้พิการทางสายตา ซึ่งทางศูนย์มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อหญิงตาบอด ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณื สติปัญญา และการใช้ชีวิตได้อย่างปกติในสังคม และสอนพวกเขาให้ได้เรียนรู้หลากหลายกิจกรรม ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เช่น การทำอาหาร การทำงานบ้าน และอืน ๆ อีกหลากหลาย นอกจากนี้แล้วยังมีการฝึกอบรมเสริม เช่น การถักโครเชต์ ถักไหมพรม และนวดแผนไทยอีกด้วย....
น้อง ๆ เข้าแถวรอต้อนรับ
การฝึกอาชีพเสริมให้กับผู้พิการทางสายตา
ผลงานที่น้อง ๆ ทำกันเสร็จแล้ว แล้วนำออกมาจำหน่ายแก่ผู้ที่มาเยี่ยมชม
ห้องที่ศึกษาเกี่ยวกับการนวดแผนไทย
ก่อนเดินทางไปสวนสามพราน ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกก่อนเดินทาง

            เมื่อเสร็จกิจกรรมที่ทางศูนย์นำเสนอแล้ว เราก็เดินทางกันต่อ...ไปยังสวนสามพราน หรือ Rose Garden ที่นี่เราจะให้ทุกท่านได้แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม เพื่อเดินชมกิจกรรมของที่นี่ โดนฐานแลก เราจะพาไปชมการรำกระทบไม้ ฐานนี้จะใหทุกท่านได้ทดลองรำกระทบไม้ โดยมีวิทยากรค่อยให้คำแนะนำและสอนรำ.....
สอนรำกระทบไม้
            เมื่อสนุกกับการรำกระทบไม้กันเสร็จแล้ว ก็พาทุกท่านไปยังฐานต่อไป คือ การทำลูกประคบจากสมุนไพรไทย ฐานนี้จะมีปราชญ์ชาวบ้านอธิบายเรื่องการใช้สมุนไพร วิธีการทำลูกประคบ และสรรพคุณต่าง ๆ ของสมุนไพรไทย...จากนั้นเราก็พอทุกท่านไปฐานต่อไป คือ การสอนรำไทย ให้ผู้การทางสายตาได้ลองหัดรำไทยกัน...ดูแล้วตั้งอกตั้งใจกันหน้าดู ...

ฐานรำไทย
           เสร็จจากฐานนี้ ฐานถัดไปเราไปหัดสานปลาตะเพียนจากใบมะพร้าวกันดีกว่า ฐานนี้ดูทุกท่านตั้งอกตั้งใจทำกันเป็นอย่างมาก ผลงานออกมาสวยกันทุกคนเลย นับถือจริง ๆ เลย...เก่งกันมาก ๆ ...
ฐานสานปลาตะเพียน
            ฐานสุดท้ายแล้ว...ก่อนไปทานอาหารกลางวันกัน ฐานนี้ท้าทายมาก นั้นคือการร้อยมาลัย...(จะทำกันได้ไหมเนี่ย)....อ่ะ ๆ อย่าเพิงดูถูกกัน ปลาตะเพียนก็สานมาแล้ว ร้อยพวงมาลัยแค่เรื่องจิบ ๆ ของบอกถึงจะร้อยยาก แต่ร้อยได้สวยกว่าคนตาดีอีก....
ฐานร้อยมาลัย
            เมื่อเสร็จจากฐานนี้แล้วก็ไปทานอาหารกลางวันกันเอร็ดอร่อย เมื่ออิ่มท้องกันแล้วก็พอเดินรอบ ๆ  ซื้อของฝากของที่ระลึกกัน...จากนั้นก็พาไปชมการแสดงของน้องช้างกัน เป็นการแสดงที่ใช้เวลาไม่มากนักแต่ทุกท่านก็ดูสนุกสนานและมีความสุขกัน เพราะมีคนค่อยบรรยายให้ฟังมาแต่อริยาบทของน้องช้างทั้งหลายกำลังทำอะไรกันบ้าง....
การแสดงของน้องช้าง น่ารัก ๆ 
             ชมการแสดงของน้องช้างกันแล้ว ก็ไปดูการแสดงวัฒนธรรมไทยกันต่อ ที่มีทั้งการเต้นรำแบบดั้งเดิม มีดนตรีพื้นบ้านประกอบ มีการจัดงานแต่งงานแบบไทย สาธิตการชกมวยไทย การจัดงานบวช ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่งดงามมากของไทยที่ใคร ๆ ก็อย่างเข้ามาชม และมาสัมผัสกับวัฒนธรรมไทยของเรา....
การแสดงวัฒนธรรมไทย

วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

3rd Asian Bird Fair Thailand 2012

        วันนี้มีบรรยากาศ ในงาน Asian Bird Fair มาเล่าสู่กันฟัง สำหรับท่านไหนที่ไม่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศในงานนี้...เมื่อวันที่ 10-11 พ.ย. 55  ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปจัดบูธที่ บางปู  งาน Asian Bird Fair ครั้งที่ 3 ปีนี้ประเทศไทยเราได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้...โดยบริษัท ทรู ร่วมกับ สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย กรมพลาธิการทหาบก และมูลนิธิฟิต จับมือร่วมกันเป็นแม่งาน...
          งานนี้มีองค์กรต่างจากต่างประเทศมาร่วมงานและออกบูธด้วย อาทิเช่น ฟิลิปปินส์ ไทเป เนปาล ไต้หวัน พม่า กัมพูชา ญี่ปุ่น มาเลเซีย ศรีลังกา เป็นต้น ภายในงานก็มีการออกบูธ จัดนิทรรศการเกี่ยวกับนก ให้ทุกท่านได้เดินชมกัน ทั้งบูธขององค์กรในประเทศไทย และองค์กรต่างประเทศ มีการนำนกต่าง ๆ มาโชว์ ทั้งตัวจริง และสตาฟไว้ ให้ทุกท่านได้ศึกษาและชมกัน นอกจากนี้ยังการบรรยาย ให้ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ เกียวกับนกอีกด้วย...
3rd Asian Bird Fair Thailand 2012
ธงประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วมงานกับประเทศเรา
บูธโครงการสร้างบ้านให้นกแสก และบูธ CPI
บูธของเกษตรกำแพงแสน จัดแสดงเรื่องเกี่ยวกับนกแสก 
นกเหยี่ยว 
นกแสก สตาฟของเกษตรกำแพงแสน

นกทึกทือ

นกเงือก




         

วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Sangkhlaburi Kanjanaburi Province

Sangkhlaburi
Sangkhlaburi is a little town that has much to offer in terms of culture, landscape, and activity. It is located less than 20 km away from the Thai Burmese border and many of its local attractions result from the Vajiralongkorn Dam's construction in 1979. Its reservoir submerged the whole Mon village and, ironically, created the famous "sunken temple" that has become a renowned attraction. Most of the accommodation stand by the reservoir. There are a couple of hip, bohemian cafes, which makes it comparable to Pai but in a more measured manner. All in all, the town is a perfect place to relax on misty day.


Wat Wang Wiwakaram



Cedit by : Thailand 50 Great Green Escapes